หน่วยที่ 4
พันธุ์ไม้ประดับที่น่าสนใจ
วาสนา
          วาสนาหรือไม้สกุลดราเซียนา( Dracaena fragrans ) เป็นไม้ประดับที่ถือว่ามีความงามในด้านทรงต้นและสีสันของใบมาก ถือเป็นไม้มงคลที่นิยมปลูกเพราะมีข้อดีและมีความสุนทรีย์หลายประการทั้งลักษณะความสวยงามอย่างอ่อนช้อย งามสง่าและโดดเด่น จากรูปร่าง สีสัน ลวดลาย และความอ่อนพริ้ว มีทรงพุ่มสมดุล มีพันธุ์ให้เลือก เช่น

วาสนาอธิษฐาน
          หรือดราเซียนา มาสแซงเกียนา (D.frangrans “Massangeana”) บางคนเรียกว่า วาสนามโนรมย์หรือวาสนาเรือนใน เป็นวาสนาพันธุ์ผสมที่มีขนาดใหญ่ ถิ่นกำเนิดอยู่ในแอฟริกา ลำต้นอาจสูงถึง 6 เมตร ลำต้นแก่ที่ทิ้งใบแล้วสีน้ำตาลอ่อน ก้านใบสั้น โคนก้านใบเป็นกาบประกบติดลำต้น แตกใบอ่อนตรงส่วนยอดในลักษณะเวียนเป็นพุ่มกลม ใบมีลักษณะค่อนข้างยาว ปลายใบแหลมโค้งลง พื้นใบมีสีเขียว มีลายสีเหลืองพาดกลางใบไปตามความยาวตลอดใบ

วาสนาควีนส์วิคตอเรีย
          มีชื่อเดิมว่า ประเดหวี, โรจน์ทนง, สายสะพายจุมพลหรือวาสนาด่าง  เป็นวาสนาชนิดที่สวยงามมากพันธุ์หนึ่ง ต้นมีขนาดเล็ก และอ่อนแอไม่ค่อยแตกแขนง ลักษณะใบคล้ายกับวาสนาอธิษฐาน ใบบาง ขอบเป็นลอน พื้นใบสีเหลือง มีลายเป็นริ้วสีเขียวอ่อน แก่สลับกับสีเทาพาดกลางใบตามความยาวกลมกลืนสวยงามมาก จัดเป็นวาสนาที่สวยงามที่สุดในชนิด

โกสน ( Codiaeum )
          โกสนจัดอยู่ในประเภทไม้พุ่ม มีตั้งแต่พุ่มขนาดเล็กจนถึงขนาดใหญ่ นิยมปลูกเป็นไม้ประดับในกระถาง เพื่อให้มีลักษณะเป็นต้นหรือพุ่มเล็ก ๆ และเป็นไม้ประดับประเภทใบ สีสันสวยงาม มีหลายสีอยู่ในใบหรือต้นเดียวกัน เช่น สีเขียว เหลือง แสด ชมพูและแดง ใบมีลักษณะหนาแข็ง พื้นใบเป็นมันเงา รูปร่างลักษณะของใบแตกต่างกันออกไปหลายรูปแบบ เช่น รูปยาวเรียว รูปกลมรี รูปกลม และบิดเป็นเกลียว ใบอาจเป็นแผ่นใหญ่ใบเดี่ยวและขอบใบมีหยัก หรือปลายใบเป็นแฉกลึกเว้าแหว่งเข้าหาเส้นกลางใบในลักษณะต่าง ๆ กัน นอกจากนี้ใบของโกสนบางต้นยังสามารถเปลี่ยนสีได้ เช่น เมื่อยังมีอายุน้อยอยู่จะมีสีเขียว เมื่ออายุหรือได้รับแสงแดดมากขึ้นจะเปลี่ยนเป็นสีส้ม สีชมพู หรือสีแดง ทำให้ใบโกสนในต้นเดียวกันมากมายหลายสี แลดูเป็นลวดลายต่าง ๆ สวยงามมาก

ปาล์ม ( Palmae )
          พืชตระกูลปาล์มมีอยู่ในโลกทั้งหมดประมาณ 4,000 ชนิด การเจริญเติบโต มีหลายลักษณะ แต่สามารถแบ่งออกเป็นลักษณะใหญ่ ๆ คือ ประเภทที่มีลำต้นเดี่ยว และลำต้นเป็นกอ ปาล์มประเภทที่มีลำต้นเดี่ยว จะมีลำต้นขึ้นมาจากพื้นดินเพียงต้นเดียวไม่มีหน่อ เช่น ปาล์มแชมเปญ ปาล์มขวด ตาล ลาน มะพร้าว ปาล์มสิบสองปันนา ตาลแดง ปาล์มจีบ ปาล์มสามเหลี่ยม อินทผาลัม และเปตติโคตปาล์ม ปาล์มพวกนี้เหมาะสำหรับปลูกประดับในสวน โดยอาจปลูกเป็นแถว 2 ข้างทางเดิน ถนน หรือปลูกเป็นกลุ่มมุมใดมุมหนึ่งของสวน ส่วนปาล์มอีกประเภทหนึ่งปาล์มประเภทมีลักษณะลำต้นเป็นกอ ปาล์มพวกนี้จะมีหน่อแตกจากโคนออกเป็นต้นใหม่รวมกับต้นเก่าเป็นกอใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ เช่น หมากเหลือง หมากเขียว หมากแดง จั๋ง และปาล์มไผ่ เหมาะที่จะปลูกเป็นกอเดี่ยว ๆ กลางสวนให้เป็นจุดเด่น และนิยมนำมาปลูกเลี้ยงลงในกระถางให้แตกเป็นกอ แล้วตั้งประดับภายในอาคาร โดยเฉพาะหมากเหลืองและจั๋ง จะแตกกอเป็นกอเตี้ยแคระสวยงามมาก

ปริกและโปร่งฟ้า( Asparagus )
          Asparagus plumosus หรือโปร่งฟ้า มีชื่ออีกอย่างหนึ่งเรียกว่า Asparagus Fern ลำต้นเป็นกิ่งเรียวยาวสีเขียวมีหนามโค้งงอ ใบแผ่เป็นแผงคล้ายใบเฟิร์น หรือสนแผง ถ้าปลูกลงดินหรือปลูกในกระถางนาน ๆ จะเลื้อยกลายเป็นไม้เลื้อยได้ อีกชนิดหนึ่งที่มีเรือนร่างทรงเตี้ยอยู่ตลอดไป คือ Asparagus plumosus nanus ใช้ปลูกในกระถางได้งามมาก
          Asparagus sprengeri หรือเรียกว่าปริก ลำต้นส่วนมากเป็นหน่อยาว ๆ แล้วแตกออกเป็นกิ่งก้านใบ ใบรูปเรียวยาวสีเขียวแก่ กอหนึ่งมีหลายหน่อออกเป็นกิ่งยาวห้อยหรือโน้มลง จึงมีผู้ใช้ปลูกใส่กระถางแล้วแขวนประดับ ชนิดก้านอ่อนเหมาะแก่การปลูกใส่กระถางใช้แขวนคือ Asparaus crispus ( decumbens ) ส่วนปริกอีกชนิดหนึ่งนั้นชอบเลื้อยพันเรียกว่า Clmbing Asparagus

สาวน้อยประแป้ง ( Dieffenbachia ( Dunb Cane )
          Dieffenbachia เป็นไม้ใบที่นิยมปลูกกันเป็นไม้กระถางกันมากทั่วไปในเขตร้อน ใช้ประดับภายในอาคารและนอกอาคาร Dieffenbachia ส่วนมากชอบขึ้นอยู่ในร่ม ( Indoor plants ) ลักษณะของต้นเป็นไม้กอ อวบน้ำไม่มีเนื้อไม้ลำต้นกลม และสูงประมาณ 4 ฟุต ใบใหญ่เป็นใบเดี่ยว ( Simple leaf ) มีจุด หรือมีสีสันสลับเป็นลายขาวครีม บนพื้นใบสีเขียว มีกาบใบห่อหุ้มลำต้นอยู่ เนื่องจากมีจุดขาว ๆ ประเต็มใบที่มีพื้นสีเขียว ไทยจึงเรียกว่า สาวน้อยประแป้ง มีชื่อเป็นภาษาไทย ตั้งชื่อตามรูปร่างลักษณะของแต่ละต้น เช่น เสือโคร่ง ลักษณะใบเป็นรูปใบพาย ปลายใบแหลมเรียว โคนใบมนติดก้านใบ พื้นใบมีสีเขียวมีลายสีเหลืองอมเขียว กระจัดกระจายอยู่ทั่วทั้งใบ คล้ายสีของหนังเสือโคร่ง  ก้านยาวมีสีเขียวอ่อน

บอนสี ( Cladium bicolor hybird )
          บอนสี หรือบอนฝรั่ง เป็นไม้ใบที่มีหัวสะสมอาหารอยู่ใต้ดิน ใบมีลายและสีต่าง ๆ สวยสะดุดตา เช่น สีขาว เงิน เขียว ชมพู และแดง ก้านใบยาว โคนก้านใบเป็นกาบติดอยู่กับหัว รูปทรงของใบมีหลายแบบ  เช่น ใบรูปหัวใจ ใบกลม รูปใบโพธิ์ รูปใบไผ่  ประเทศไทยนิยมเลี้ยงเป็นไม้กระถางมาช้านาน ได้แก่ ว่านโพธิ์เงิน ว่านโพธิ์ทอง ต่อมามีการนำเข้ามามากและผสมพันธุ์ได้บอนสี เป็นลูกผสมใหม่ จึงมีการตั้งชื่อเป็นชุดเป็นตับตามลักษณะรูปร่าง สีสันของบอนสีชนิดนั้น เช่น ตับพระอภัยมณี ตับไกรทอง ตับอิเหนา ฯลฯ

เขียวหมื่นปี (Aglaomena)
          เขียวหมื่นปี เป็นไม้ประดับที่มีใบสวยงาม สีเขียวสดใสตลอดปี มีขนาดกะทัดรัด มีลวดลายเส้นสายบนใบเพิ่มความสวยงามและถือเป็นไม้มงคลนามมีลักษณะลำต้น ข้อถี่ แตกใบอ่อนตรงส่วนยอดของลำต้นทีละใบแต่มีสี เขียวหมื่นปีบางชนิดทอดลำต้นเลื้อยไปตามดินแตกรากได้ทุกข้อของลำต้น ก้านใบยาว ก้านใบส่วนที่ติดใบมีลักษณะกลม ส่วนที่ติดกับลำต้นเป็นกาบ ใบมีรูปคล้ายใบพาย แคบ ยาวเรียว บางชนิดใบป้อมคล้ายใบโพธิ์ พื้นใบสีเขียวเข้มเป็นมันมากกว่าพวกสาวน้อยประแป้ง นอกจากนี้ใบยังมีลายสีเทาเงินตลอดทั้งใบ และบางชนิดอาจมีลายสีแดงหรือจุดสีขาวบนใบบ้างก็มี เช่น กวักทองคำ นกแก้วราชินี ว่านขันหมาก

ปรง ( Cycad )
          ปรง มีลักษณะคล้ายปาล์มใบรูปขนนก เจริญเติบโตช้า มีอายุยืนยาวหลายสิบปี มีเหง้าอยู่ใต้ดิน ลำต้นตรง ไม่แตกกิ่ง ใบผลิจากช่อยอดที่มีลักษณะคล้ายหัวสับปะรด ใบย่อยค่อนข้างหนาแคบเรียวเรียงชิดกันทั้งสองข้างของก้านใบปลายใบแหลมแข็งเหมือนหนาม ก้านใบโค้งเล็กน้อย  ปรงจะมีฤดูผลัดใบทุก ๆ 1 – 2 ปี ใบเก่าจะร่วงจนหมดและจะผลิใบอ่อนช่อใหม่ขึ้นพร้อมกัน มองดูคล้ายใบอ่อนม้วนงอของเฟิร์น เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของปรง  เช่น ปรงเม็กซิกัน  เป็นต้น

คล้า ( Calathea )
          คล้า เป็นไม้ล้มลุกทรงพุ่มเป็นกอ มีลำต้นใต้ดินเป็นเหง้าหรือหัว แตกหน่อขยายกอ มีลักษณะเด่นเฉพาะของเส้นแถบลายใบที่มีสีสันสวยงามสะดุดตาไปตามสายพันธุ์ ทรงพุ่มต่าง ๆ กัน  เช่น ว่านเสน่ห์ขุนแผน มีลักษณะเด่นเฉพาะคือใบสีเขียวเข้มเป็นมันช่วงระหว่างเส้นใบมีริ้วสีขาวพาดเฉียงเป็นระเบียบช่องละ 4 เส้น
Free Web Hosting